ถ้าให้พูดถึงสัตว์ดาวเด่นของ
เขาดิน แน่นอนเลยว่าชื่อที่มาเป็นลำดับต้น ๆ ต้องมีชื่อของ
"แม่มะลิ" อยู่ด้วยแน่ ๆ หลายคนเวลามาที่นี่ก็อดไม่ได้ที่จะแวะไปเยี่ยมชมกันที่ส่วนจัดแสดง ซึ่งแม่มะลิเท่าที่ทราบกันดี ก็คือเป็นฮิปโปโปเตมัสที่อยู่กับเขาดินมายาวนาน แต่เรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับแม่มะลิล่ะ มีอะไรอีกบ้างนะ วันนี้เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ
คุณแนน-นันทกานต์ พงศ์สุพัฒน์ หัวหน้างานบำรุงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สวนสัตว์ดุสิต เลยอยากจะมาเล่าเกี่ยวกับแม่มะลิในอีกหลาย ๆ มุมให้ฟังกันค่ะ
คุณแนน-นันทกานต์ พงศ์สุพัฒน์
1. ฮิปโปโปเตมัสอินเตอร์ เห็นแม่มะลิฟังภาษาไทยรู้เรื่องเวลาที่คีปเปอร์เรียก จริง ๆ แล้วแม่มะลิไม่ได้เป็นฮิปโปโปเตมัสเชื้อสายไทยแท้นะคะ เป็นฮิปโปโปเตมัสเชื้อสายต่างประเทศ 100% เลยล่ะ โดยแม่มะลิเกิดที่ Koelner Zoo เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2509 รวมอายุก็ 52 ปีค่ะ ไม่ใช่แค่เพียงอายุที่มากขึ้นนะคะ ตอนนี้แม่มะลิก็น้ำหนักเยอะมากขึ้นเช่นกัน โดยน้ำหนักของแม่มะลิอยู่ที่ราว ๆ มากกว่า 2,000 กิโลกรัมเลยทีเดียว โอ้ว...แม่คะ แม่กินอะไรเข้าไป ทำไมแม่ถึงได้หนักขนาดนี้ ใครไม่เชื่อว่าแม่มะลิตัวใหญ่ มาค่ะ มาพิสูจน์กันด้วยตาเลย ^^
2. แม่มะลิเป็นฮิปโปโปเตมัสที่มีอายุยืนที่สุดในประเทศไทย แม่มะลิยังดูผิวเต่งตึงแบบนี้ อายุอานามปาเข้าไป 52 ปีแล้วนะ ถ้าเทียบกับคนก็อยู่ในช่วงอายุประมาณ 70-80 ปีเลยทีเดียว ซึ่งต้องบอกว่าเกินอายุเฉลี่ยของฮิปโปโปเตมัสทั่วไปที่จะอยู่ที่ประมาณ 40-45 ปีไปมากพอสมควร ถือว่าเป็นฮิปโปโปเตมัสที่อายุยืนที่สุดในประเทศไทยค่ะ
3. ตัวแทนจาก Dierenpark Tilburg ประเทศเนเธอร์แลนด์ นั่นแน่...งงล่ะสิ ว่าแม่มะลิเกิดที่ Koelner Zoo เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี แล้วทำไมถึงได้เป็นตัวแทนจาก Dierenpark Tilburg เมืองทิลบูรก์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ นั่นก็เป็นเพราะว่าพอแม่มะลิเกิดได้ไม่นานก็ได้ย้ายไปอยู่ที่ Dierenpark Tilburg ค่ะ แล้วต่อมาก็มีการแลกเปลี่ยนสัตว์ระหว่างสวนสัตว์ดุสิตกับ Dierenpark Tilburg ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าสัตว์ป่าต่าง ๆ ที่อยู่ในสวนสัตว์ทั่วโลกนั้นจะไม่ได้ไปล่าสัตว์มานะคะ แต่เป็นการแลกเปลี่ยนระหว่างสวนสัตว์ด้วยกันเอง ในวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2510 แม่มะลิจึงได้แลกเปลี่ยนมาอยู่ที่สวนสัตว์ดุสิตอย่างเป็นทางการ โดยทางเราก็ส่งชะนีไปเป็นตัวแทนจากสวนสัตว์ดุสิตค่ะ
4. แม่มะลิกลั้นหายใจอยู่ในน้ำได้นานมากถึง 5-6 นาที ไปเขาดินมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็มักจะเห็นแม่มะลินอนอยู่ในน้ำ ไม่ค่อยได้เห็นมาเดินอวดโฉมเท่าไร ทั้ง ๆ ที่เป็นสัตว์บกเลี้ยงลูกด้วยนม นั่นก็เป็นเพราะว่าถิ่นกำเนิดของฮิปโปโปเตมัสนั้นมาจากทางฝั่งทวีปแอฟริกาค่ะ ซึ่งแดดที่นั่นจะร้อนมาก แล้วจะทำให้ผิวของฮิปโปโปเตมัสแห้ง ฮิปโปโปเตมัสเลยแสดงพฤติกรรมแบบแอมฟิบิอัส (Amphibius) คือจะคล้ายกับสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก จะใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในน้ำ โดยเฉพาะเวลากลางวัน เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นนั่นเอง
ส่วนที่เห็นแม่มะลิลงไปนอนอยู่ใต้น้ำนาน ๆ ก็เป็นความสามารถพิเศษของฮิปโปโปเตมัสอีกเช่นกัน ที่สามารถกลั้นหายใจอยู่ใต้น้ำได้ยาวนานมากถึง 5-6 นาที คอยสังเกตดี ๆ นะคะ ก่อนที่แม่มะลิจะดำน้ำลงไป คุณแม่จะหายใจเข้าลึก ๆ เลยค่ะ แล้วปิดรูจมูกแน่น ก่อนที่จะดำดิ่งลงไปอยู่ใต้น้ำ พอขึ้นน้ำมาอีกทีก็จะหายใจดังมาก น่ารักจริง ๆ ค่ะ
5. ทำไมแม่มะลิมีเหงื่อสีแดง ใครไปพบเจอแม่มะลิมา ถ้าเห็นว่าที่ตัวแม่มะลิมีน้ำสีแดงเข้ม ออกน้ำตาล ๆ ไหลออกมา อย่าตกใจกันนะ นั่นไม่ใช่เลือดของแม่มะลิค่ะ แต่นั่นเป็นเมือกที่ผลิตออกมาจากต่อมที่อยู่ลึกลงไปจากชั้นใต้ผิวหนัง โดยจะมีการผลิตออกมาเคลือบผิวหนังตลอดเวลา ซึ่งเมือกนี้จะเหนียว ๆ หนืด ๆ แรกเริ่มจะเป็นสีชมพู เมื่อมีการศึกษาก็พบว่าในเมือกนี้มีสารที่ดูดกลืนแสง (Pigment) สีแดงกับสีส้ม โดยสารทั้ง 2 ตัวนี้ จะคอยดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลต พอดูดซับแสงเข้าไปแล้วก็จะเปลี่ยนสีไปเป็นสีแดงเข้ม ออกน้ำตาล ๆ คล้ายเลือด และเจ้าเมือกนี้นี่เองที่จะทำหน้าที่คล้ายกับเป็นครีมกันแดด ทำให้ผิวหนังของฮิปโปโปเตมัสชุ่มชื้น แหม...แม่มะลินี่เท่มากเลยนะ มีครีมกันแดดเป็นของตัวเองด้วย
6. ผิวคล้ำ ใจดี มีไฝกลางหลัง นี่แหละแม่มะลิ ฮิปโปโปเตมัสไม่ได้หน้าตาเหมือนกันทั้งหมดนะคะ ฮิปโปโปเตมัสแต่ละตัวเขาจะมีเอกลักษณ์ภายนอกบางสิ่งบางอย่างที่ไม่เหมือนกัน อย่างแม่มะลิจะผิวคล้ำค่ะ ลองเดินไปเทียบดูกับ
"ถั่วแดง" ฮิปโปโปเตมัสของเขาดินอีกตัว ซึ่งเป็นเหลนของแม่มะลิ จะเห็นชัดเลยว่าแม่มะลิจะผิวคล้ำกว่ามาก และที่หลังของแม่มะลิก็จะมีไฝอยู่ค่ะ ลองสังเกตกันดู ส่วนนิสัยของแม่มะลิ
พี่เขียด-สมพงษ์ สวัสดิ์นำ คีปเปอร์คู่ใจแม่มะลิ เล่าให้ฟังว่าแม่มะลิจะใจดีมาก มีความเป็นแม่สุด ๆ เมื่อครั้งที่มีฮิปโปโปเตมัสอยู่รวมกันหลาย ๆ ตัวที่เขาดิน แม่มะลิก็จะคอยดูแลทุก ๆ ตัว ห้ามไม่ให้ตัวอื่น ๆ ทะเลาะกัน และคอยปกป้องลูก รวมทั้งหลาน ๆ เหลน ๆ ไม่ใครมารังแก น่ารักจังเลยแม่มะลิ ขอเป็นแฟนคลับเลยล่ะกันนะ ^^
พี่เขียด-สมพงษ์ สวัสดิ์นำ
อ้อ...แต่อยากฝากไว้สักนิดค่ะ ว่าจริง ๆ แล้วฮิปโปโปเตมัสค่อนข้างเป็นสัตว์ที่ดุร้าย ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวสวนสัตว์เปิด หรือสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติไม่ว่าที่ไหนก็ตามแล้วเจอฮิปโปโปเตมัส อย่าคิดว่าเขาใจดีเหมือนแม่มะลินะคะ ตามธรรมชาติแล้วเขาจะมีเขี้ยวที่แหลมคมมาก งับ กัดสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายดายเลยล่ะ ที่สำคัญวิ่งเร็วมาก ๆ ด้วย วิ่งตามคนได้แน่นอน เพราะฉะนั้นก็ต้องระมัดระวังนะคะ ถ้าไปแหย่แล้วเขาวิ่งตาม ก็ตัวใครตัวมันละกันนะพี่น้อง
7. แม่มะลิมีลูกมากถึง 14 ตัว ใครที่บอกว่าตัวเองสตรอง ลองมาเจอแม่มะลิหน่อยดีกว่า เพราะถ้าแม่มะลิไม่แข็งแรงจริง ๆ ก็ไม่สามารถมีลูกได้มากถึง 14 ตัวแน่นอน ซึ่งแต่ละตัวก็กระจายไปอยู่ตามสวนสัตว์ต่าง ๆ ในองค์การสวนสัตว์ของประเทศไทย และยังมีแลกเปลี่ยนไปอยู่ที่ประเทศลาว และประเทศมาเลเซียด้วย รายชื่อลูกแม่มะลิมีดังนี้
1. ตอร์ปิโด เพศผู้ เกิดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2514 ปัจจุบันอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่
2. วีรชน เพศผู้ เกิดเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2516 ปัจจุบันอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่
3. มะลิวัลย์ เพศเมีย เกิดเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2519 ปัจจุบันอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่
4. กรุณา เพศผู้ เกิดเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2521 ปัจจุบันอยู่ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว
5. หนุ่ม เพศผู้ เกิดเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2523 ปัจจุบันอยู่เสียชีวิต
6. ปราณี เพศเมีย เกิดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2524 ปัจจุบันอยู่ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว
7. ไม่มีชื่อ เพศเมีย เกิดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2525 ปัจจุบันอยู่ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว
8. มาลัย เพศเมีย เกิดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2527 ปัจจุบันอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย
9. เก่ง เพศผู้ เกิดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2529 ปัจจุบันอยู่ที่ฟาร์มจระเข้
10. เก้า เพศผู้ เกิดเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2530 ปัจจุบันอยู่ที่ประเทศลาว
11. หนึ่ง เพศผู้ เกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2532 ปัจจุบันอยู่ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว
12. เล็ก เพศเมีย เกิดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2536 ปัจจุบันอยู่ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว
13. กระทง เพศผู้ เกิดเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2539 ปัจจุบันอยู่ที่สวนสัตว์นครราชสีมา
14. มะยม เพศผู้ เกิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2542 ปัจจุบันอยู่ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว
8. อาหารโปรดของแม่มะลิ สงสัยกันใช่ไหมคะ ว่าที่แม่มะลิตัวอ้วนถ้วนสมบูรณ์ขนาดนี้ ในแต่ละวันแม่มะลิกินอะไรบ้าง อาหารโปรดของแม่มะลิเลยก็คือ "หญ้าสด" ในหนึ่งวันแม่มะลิต้องกินหญ้าสดอย่างน้อย ๆ 50 กิโลกรัม แล้วก็มีอาหารเสริมอื่น ๆ เข้ามาบ้างค่ะ คือ กล้วยน้ำว้า 5 กิโลกรัม มันเทศ 5 กิโลกรัม และถั่วฝักยาว 5 กิโลกรัม เอิ่ม...แม่คะ ถ้าจะกินเยอะขนาดนี้ ถ้าเป็นคนนี่คงเลี้ยงแม่ไม่ไหวนะคะ ฮ่าๆๆ
9. แม่มะลิกับนายกรัฐมนตรี 30 สมัย ถ้าให้นับเวลาที่แม่มะลิมาอยู่ที่เขาดิน ก็เป็นเวลามากกว่า 50 ปีแล้วนะคะ แน่นอนว่าในเหตุการณ์สำคัญ ๆ ต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ แม่มะลิก็ผ่านมาหมดแล้ว คิดดูสิ แม่มะลิอยู่มาจนมีนายกรัฐมนตรีถึง 30 สมัย (*อ้างอิงจาก
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี) อยู่มาตั้งแต่สมัยของนายกรัฐมนตรีจอมพล ถนอม กิตติขจร เลยล่ะ เหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเทพฯ ครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ. 2554 แม่มะลิก็ผ่านมาแล้วค่ะ ตอนนั้นภายในเขาดินไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพียงแต่ว่าต้องมีการกักตุนอาหารไว้ให้สัตว์ต่าง ๆ มากขึ้น ถ้าดูเพียงเท่านี้ แม่มะลิก็อยู่กับคนไทยมายาวนานจริง ๆ และก็ยังเป็นดาวเด่นของเขาดิน พร้อมทั้งยังเป็นสัตว์ในดวงใจของใครหลายคนมาโดยตลอดด้วย :)
10. การเยี่ยมชมแม่มะลิ สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะพบเจอกับแม่มะลิตัวจริงเสียงจริง สามารถเข้าชมแม่มะลิได้ที่บริเวณส่วนจัดแสดงฮิปโปโปเตมัส ใกล้กับส่วนจัดแสดงหมีและหลุมหลบภัยสาธารณะ ซึ่งถ้าเดินเข้าจากทางประตู 2 ฝั่งถนนราชวิถี ให้เดินเลี้ยวซ้ายผ่านส่วนจัดแสดงลิง-ค่าง เดินเลยอาคารจัดแสดงสัตว์เลื้อยคลาน ส่วนจัดแสดงหมี ก็จะเจอกับแม่มะลิค่ะ แต่ถ้าใครเข้ามาจากทางฝั่งประตู 1 ถนนพระรามที่ 5 ให้เดินเลี้ยวขวา ผ่านส่วนจัดแสดงสัตว์ป่าสงวน หลุมหลบภัยสาธารณะมาเรื่อย ๆ ก็จะเจอกับส่วนจัดแสดงฮิปโปโปเตมัสค่ะ
ได้ทำความรู้จักกับแม่มะลิไปไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ ใครที่กำลังจะไปเที่ยวเขาดิน ก็อยากให้แวะไปทักทายแม่มะลิกันด้วยค่ะ หรือใครที่ยังไม่เคยไปเที่ยวเขาดิน ก็อยากเชิญชวนให้ไปเที่ยวกัน ไปสัมผัสความน่ารักของทั้งแม่มะลิและสัตว์ตัวอื่น ๆ บอกได้เลยว่าการไปเที่ยวสวนสัตว์อย่างเขาดิน คุณจะได้สิ่งดี ๆ กลับบ้านมามากกว่าความน่ารักของสัตว์แน่นอน :)