วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2561

นิทานอีสป ราชสีห์กับหนู

นิทานอีสป ราชสีห์กับหนู นิทานสอนใจสำหรับลูกน้อย


          นิทานอีสป เรื่อง ราชสีห์กับหนู นิทานน่ารัก ๆ ของเหล่าสัตว์ป่ามาพร้อมกับข้อคิดสอนใจดี ๆ เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต ให้คุณพ่อคุณแม่ใช้เล่ากล่อมลูกน้อยก่อนนอน

           รู้หรือไม่ว่า การเล่านิทานให้ลูกฟังมีประโยชน์และข้อดีมากมาย เพราะนอกจากจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้ใช้เวลาอยู่กับลูกน้อยแล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างทักษะการฟัง การอ่าน สอนให้รู้จักคิด รู้จักสังเกต และปลูกฝังพื้นฐานการเรียนรู้รวมถึงการดำเนินชีวิตที่ดีให้แก่เด็ก ๆ อีกด้วย วันนี้กระปุกดอทคอมมีนิทานอีสปเรื่อง "ราชสีห์กับหนู" มาฝากให้คุณพ่อคุณแม่นำไปเล่าให้ลูกน้อยฟัง พร้อมภาพประกอบ และข้อคิคดี ๆ รับรองว่าคืนนี้ถ้าได้อ่านให้ลูกฟังก่อนนอน เด็ก ๆ ต้องหลับฝันดีแน่ ^^

นิทานอีสป
          กาลครั้งหนึ่ง ณ ผืนป่าอันกว้างใหญ่ ขณะราชสีห์ผู้เป็นราชาแห่งสัตว์ทั้งหลายกำลังนอนหลับอย่างเป็นสุข จู่ ๆ ก็มีหนูตัวน้อยไต่ขึ้นมาปีนป่ายบนหลังจนราชสีห์รู้สึกตัวตื่น ก่อนใช้อุ้งเท้าใหญ่ตะครุบหนูน้อยตัวนั้น หวังจะขย้ำกินด้วยความโมโหเพราะถูกขัดจังหวะการพักผ่อน

          แต่ยังไม่ทันจะอ้าปากกว้างดีก็มีเสียงอ้อนวอนเล็ก ๆ จากเจ้าหนูดังขึ้นมาว่า "ได้โปรดให้อภัยข้าสักครั้งเถิดท่านเจ้าป่า ข้าขอสาบานว่าข้าไม่ได้ตั้งใจล่วงเกินท่านเลยแม้แต่น้อย หากคราวนี้ท่านมีเมตตาปล่อยตัวข้าไป ข้าจะไม่ลืมบุญคุณของท่าน ข้าจะตอบแทนท่านอย่างแน่นอน ข้าสัญญา"

          ทันทีที่ได้ยินราชสีห์เจ้าป่าก็หัวเราะลั่นแล้วตอบกลับไปว่า "เจ้าเป็นเพียงหนูตัวเล็กแค่นี้ จะมีปัญญาทำอะไรตอบแทนข้าที่เป็นถึงราชาผู้ยิ่งใหญ่ได้ แต่เอาเถอะ เห็นแก่มุกตลกของเจ้าที่ทำให้ข้าหัวเราะได้ ครั้งนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไปก็แล้วกัน" แม้จะเต็มไปด้วยคำดูถูกแต่เจ้าหนูน้อยก็ตอบรับอย่างนอบน้อมและจริงใจ "ขอบคุณท่านเจ้าป่าผู้เมตตา ข้าจะไม่ลืมบุญคุณครั้งนี้เลย"

          หลายวันผ่านไป ขณะราชสีห์กำลังออกล่าหาอาหารก็ดันพลาดท่าไปติดกับดักนายพรานเข้า ต่อให้ดิ้นแรงแค่ไหนก็ดิ้นไม่หลุดทำได้แต่ส่งเสียงร้องออกมาอย่างสิ้นหวัง โชคที่ดีเจ้าหนูได้ยินเข้าจึงรีบวิ่งตามเสียงนั้นไปแล้วรีบลงมือช่วยเหลือราชสีห์ทันที เจ้าหนูใช้ฟันเล็ก ๆ ของมันกัดบ่วงกับดักทีละเส้นอย่างตั้งใจจนราชสีห์รู้สึกผิดที่เคยพูดดูถูกอีกฝ่ายไว้สารพัด

          เมื่อบ่วงเส้นสุดท้ายขาดและราชสีห์รอดเป็นอิสระอีกครั้งจึงพูดกับเจ้าหนูว่า "ขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยข้าเอาไว้ และข้าขอโทษด้วยที่เคยพูดไม่ดีกับเจ้าในวันนั้น" เจ้าหนูยิ้มรับคำขอบคุณนั้นอย่างยินดีแล้วตอบกลับไปว่า "ข้าไม่เคยถือโทษโกรธเลยท่านเจ้าป่า และข้าดีใจยิ่งกว่าที่ได้ตอบแทนท่านอย่างที่สัญญาไว้"

          เมื่อต่างคนต่างเข้าใจ ไม่ถือโทษโกรธกัน หลังจากนั้นราชสีห์กับเจ้าหนูก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ไม่เคยดูถูกว่าร้ายกัน คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และใช้ชีวิตด้วยกันในป่ากว้างร่วมกับสัตว์อื่น ๆ อย่างมีความสุขเรื่อยไป...

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :

          อย่าตัดสินคนอื่นจากรูปลักษณ์ภายนอก อย่าคิดว่าคนที่มีฐานะด้อยกว่าจะไม่สามารถทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ เพราะคนที่มีรูปร่างเล็กก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องต่ำต้อยหรืออ่อนแอ ในขณะเดียวกันคนที่มีรูปร่างใหญ่โตก็ไม่ได้หมายความว่าจะเก่งกาจหรือแข็งแกร่งมากกว่าคนอื่น เหมือนกับราชสีห์ในนิทานที่มีอำนาจและทรงพลัง เป็นถึงราชาผู้คุ้มครองสัตว์ป่าแต่ก็สามารถผิดพลาดจนต้องให้หนูตัวเล็ก ๆ มาช่วย ดังนั้นเราจึงควรปฏิบัติตัวดีกับคนอื่น กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน หากมีปัญหาก็ควรทำความเข้าใจ รู้จักขอโทษให้อภัยต่อกัน แล้ววันหนึ่งเราจะได้รับแต่สิ่งดี ๆ ทั้งความรู้สึกดี ๆ และมิตรภาพดี ๆ ตอบแทนกลับมาอย่างแน่นอนค่ะ    
ที่มา :Kapook.com

นิทานอีสป หนูน้อยหมวกแดง

นิทานอีสป หนูน้อยหมวกแดง นิทานสอนใจเล่าให้ลูกน้อยฟังก่อนนอน





           วันนี้กระปุกดอทคอมมี  นิทานอีสป เรื่อง  หนูน้อยหมวกแดง มาฝากคุณหนู ๆ โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถเล่าให้ลูกน้อยฟังก่อนนอนได้ เพราะนอกจากเนื้อเรื่องจะสนุกสนานแล้วนั้น ยังแฝงไปด้วยข้อคิดดี ๆ อีกด้วย ^^

          กาลครั้งหนึ่ง ณ หมู่บ้านที่แสนอบอุ่น มีเด็กหญิงหน้าตาน่ารักนั่งเล่นดูคุณแม่ทำอาหารอยู่ในครัว เพื่อนบ้านทุกคนต่างพากันเรียกเธอว่า "หนูน้อยหมวกแดง" ตามสีของหมวกที่เธอใส่เป็นประจำ และวันนี้เธอก็ได้รับคำสั่งจากคุณแม่ ให้นำอาหารและขนมไปเยี่ยมคุณยาย ผู้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านข้าง ๆ

นิทานอีสป
          "เอาตะกร้านี้ไปส่งให้ถึงมือคุณยายนะจ๊ะ แล้วก็รีบไปรีบกลับ อย่าไปเที่ยวเล่น เถลไถลที่ไหนไกล อย่าพูดคุยกับคนแปลกหน้าด้วยล่ะ เข้าใจไหม ?" คุณแม่คนสวยกำชับด้วยความเป็นห่วง ลูกสาวตัวน้อยเองก็ตอบรับสัญญา แล้วออกจากบ้านไปอย่างร่าเริง

          ระหว่างทางไปบ้านคุณยาย บังเอิญมีหมาป่าเจ้าเล่ห์เดินมาพบกับหนูน้อยหมวกแดง จึงเข้าไปทักทายหวังจับเด็กหญิงทำเป็นอาหารมื้อเย็น "สวัสดีจ้ะสาวน้อย มาทำอะไรในป่าตรงนี้คนเดียวเหรอจ๊ะ ?"
นิทานอีสป
          "หนูกำลังไปเยี่ยมคุณยายที่หมู่บ้านใกล้ ๆ นี้เองค่ะ" หนูน้อยหมวกแดงตอบอย่างเป็นมิตร แต่กลับทำให้เจ้าหมาป่าคิดอุบายหลอกล่อ หวังจับคุณยายของเธอมาเป็นเหยื่อด้วยอีกคน 

          "แต่ว่าสาวน้อย.. เอาตะกร้าเล็ก ๆ ไปแค่นี้ คุณยายเสียใจแย่เลย ฉันว่าเราไปเก็บดอกไม้สวย ๆ มาเป็นของขวัญเพิ่มกันเถอะ" หมาป่าชักชวนให้หนูน้อยหมวกแดงออกนอกเส้นทาง มันจะได้รีบตรงไปจับคุณยายกินก่อน แล้วดักรอหนูน้อยหมวกแดงที่บ้านนั้นเลย

นิทานอีสป
          โชคไม่ดีที่หนูน้อยหมวกแดงหลงเชื่อคำชวน แล้วหันไปเก็บดอกไม้ และเดินเล่นอย่างเพลิดเพลินจนลืมทั้งเวลา ทั้งคำตักเตือนของคุณแม่ไปหมดสิ้น กระทั่งเจ้าหมาป่าเดินทางไปถึงหมู่บ้านข้าง ๆ แล้วจับตัวคุณยายซ่อนเอาไว้ในตู้ ก่อนนำเสื้อผ้ามาใส่ เพื่อปลอมตัวเป็นคุณยายนอนป่วยอยู่บนเตียง รอให้หนูน้อยหมวกแดงมาถึงแล้วจับกินทั้งยายทั้งหลานพร้อมกันทีเดียว 

นิทานอีสป
          เมื่อหนูน้อยหมวกแดงรู้ตัวว่าทำผิดคำสั่งคุณแม่ ก็รีบวิ่งไปหาคุณยายที่บ้านทันที แต่กลับพบเข้าว่าคุณยายของเธอนั้น มีท่าทางและหน้าตาแปลกประหลาดไปจากเดิม 

นิทานอีสป

"คุณยายคะ ทำไมคุณยายต้องนอนคลุมโปงด้วยล่ะคะ ?" หนูน้อยถามด้วยความสงสัย

"ยายเป็นไข้ไม่สบาย ยายเลยหนาวจ้ะหลาน" หมาป่าดัดเสียงตอบ

"คุณยายคะ ทำไมเสียงของคุณยายแปลกจังเลยคะ ?" หนูน้อยถามอีกครั้ง

          "ยายเจ็บคอ ไอหนักมาก เสียงเลยเพี้ยนไปหน่อยจ้ะหลาน" หมาป่าตอบพร้อมแกล้งทำเป็นไอค่อกแค่ก ทำให้หนูน้อยหมวกแดงสังเกตเห็นเขี้ยวแหลมในปาก

          "คุณยายคะ ทำไมคุณยายถึงมีเขี้ยวยาวขนาดนั้นล่ะคะ ?" หนูน้อยหมวกแดงถาม แล้วค่อย ๆ เดินถอยออกมา เพราะเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย

นิทานอีสป
        
          "ก็เพราะยายมีเขี้ยวไว้จับหลานกินไงล่ะ เจ้าหนูน้อย !!" คราวนี้หมาป่าไม่แสร้งทำตัวใจดีอีกต่อไป พร้อมกระโจนมาตะครุบตัวหนูน้อยหมวกแดงอย่างเกรี้ยวกราด แต่โชคดีที่เสียงกรี๊ดของหนูน้อย ดังไปถึงนายพรานหนุ่มสองคนที่ผ่านมาพอดี 

          ปัง ปัง ปัง !!! เสียงปืนดังขึ้นสามนัด พร้อมกับร่างของหมาป่าดิ้นรนอย่างเจ็บปวด นายพรานหนุ่ม บุกเข้ามาช่วยชีวิตหนูน้อยหมวกแดง และพาคุณยายออกจากตู้เสื้อผ้าได้อย่างปลอดภัย หนูน้อยหมวกแดงสารภาพความผิด และขอโทษคุณยายที่ตัวเองเถลไถลจนได้รับอันตรายกันทั้งคู่

นิทานอีสป
          "ยายไม่โกรธอะไรหรอกจ้ะ แค่หนูไม่เป็นอะไรก็พอแล้ว แต่ต้องสัญญากับยายก่อนนะว่า จะไม่เชื่อฟังคนแปลกหน้า ไม่เล่นซนจนลืมเวลาแบบคราวนี้อีก" หนูน้อยหมวกแดงพยักหน้ารับคำ พอคุณยายเห็นดังนั้นก็ยิ้มรับ แล้วเลี้ยงอาหารมื้ออร่อยให้นายพรานแทนคำขอบคุณ ก่อนทั้งสองจะพาหนูน้อยหมวกแดง กลับสู่อ้อมกอดของคุณแม่ที่บ้านโดยสวัสดิภาพ.. 

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : 


          เด็ก ๆ ควรมีวินัยในตนเอง และเชื่อฟังคำสั่งสอน รวมถึงคำแนะนำของคุณพ่อคุณแม่ ถ้าได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกแล้ว ก็ไม่ควรเถลไถลไปไหนไกลจนมืดค่ำ และควรกลับบ้านให้ตรงเวลาที่กำหนด ที่สำคัญต้องพยายามหลีกเลี่ยง ไม่พูดคุย หรือรับของจากคนแปลกหน้าโดยเด็ดขาด เพราะพวกเขาอาจเป็นคนไม่ดีที่หวังขโมยทรัพย์สินเงินทอง หรือทำร้ายร่างกายแล้วเป็นอันตรายต่อชีวิต เหมือนกับหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ ผู้คิดวางแผนกินหนูน้อยหมวกแดงเป็นอาหาร แต่ถ้าเผลอทำตัวผิดไป ก็ต้องรู้จักขอโทษขอโพย เอาความผิดพลาดมาเป็นบทเรียน แล้วอย่ากลับไปทำผิดซ้ำสองอีกนะคะ
ที่มา: Kapook.com