ทายสิตัวนี้ชื่ออะไร มารู้จักกับ 10 ชื่อสัตว์ในเขาดินกัน
หลังจากที่เราเคยนำเสนอสัตว์ดาวเด่นในเขาดินไปแล้ว คราวนี้ก็อยากให้ได้ไปทำความรู้จักกับสัตว์ชนิดอื่น ๆ ในเขาดินกันบ้างค่ะ เพราะในเขาดินมีสัตว์มากกว่า 700 ชนิด และมากกว่า 1,000 ตัว โอ้โห...เยอะไม่ใช่เล่นเลยค่ะ ไหน ๆ ลองนับสิว่าเรารู้จักกันกี่ตัว ถ้าใครได้อ่านเรื่อง 8 สัตว์ดาวเด่นแห่งเขาดิน อย่างน้อย ๆ ก็รู้จักมา 8 ตัวแล้วเนอะ งั้นมาทำความรู้จักเพิ่มอีกสัก 10 ตัวดีกว่า แต่จะบอกชนิดไปเลยก็ดูจะธรรมดาไป มาลองทายชื่อกันดูไหม ว่าชื่อต่อไปนี้เป็นสัตว์ชนิดไหน ลองโยงกันดูสิ ^^
1. พังจิ๋ม 1. สิงโตขาว
2. มึน 2. จระเข้
3. ตาหวาน 3. ลิงแสม
4. ซันไรส์ 4. ช้าง
5. ฮันนี่ 5. นกเงือก
6. โตโน่ 6. ยีราฟ
7. แตงกวา 7. ม้าลาย
8. ยักษ์ 8. คาปิบารา
9. สมศรี 9. หมีหมา
10. บุ้งกี๋ 10. เสือโคร่ง
2. มึน 2. จระเข้
3. ตาหวาน 3. ลิงแสม
4. ซันไรส์ 4. ช้าง
5. ฮันนี่ 5. นกเงือก
6. โตโน่ 6. ยีราฟ
7. แตงกวา 7. ม้าลาย
8. ยักษ์ 8. คาปิบารา
9. สมศรี 9. หมีหมา
10. บุ้งกี๋ 10. เสือโคร่ง
1. พังจิ๋ม : ช้าง
อาหารโปรดก็คือหญ้าสดและกล้วยน้ำว้า ให้ทายว่าใน 1 วันพี่พังจิ๋มกินหญ้ากี่กิโลกรัม และกล้วยน้ำว้ากี่หวี ติ๊กต่อก ๆๆ… เฉลยค่ะ ใน 1 วันพังจิ๋มจะกินหญ้าสดมากถึง 120 กิโลกรัม และกล้วยน้ำว้ามากกว่า 10 หวี นี่ยังไม่รวมมันเทศและผลไม้ตามฤดูกาลอีกนะคะ ที่จะกินรวม ๆ กันอีกมากกว่า 10 กิโลกรัม โอย กินเยอะขนาดนี้ ถ้าเป็นคน น้องไม่เลี้ยงพี่พังจิ๋มนะจ๊ะ กินจุเหลือเกิน
2. มึน : หมีหมา
พี่มึนของเราเป็นหมีหมา ซึ่งเป็นหมีที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก ขนเรียบสั้นสีดำ สังเกตที่ตรงหน้าอกจะมีขนสีขาวอมเหลือง เป็นรูปตัวยูค่ะ เล็บก็ยาว ลิ้นก็ยาว พี่แกจะชอบกินกล้วยน้ำว้า ไข่ต้ม น่องไก่ต้ม ผลไม้ตามฤดูกาล แล้วก็ยังชอบกินโยเกิร์ตและน้ำแดงด้วยนะ วันไหนที่อากาศร้อนจัด ๆ ถ้าพี่มึนได้กิน 2 อย่างนี้ เป็นนอนฟินไปเลย ^^ ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถชมการให้อาหารหมีได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 14.15 น.
3. ตาหวาน : ยีราฟ
ถ้าให้เดาชื่อเฉย ๆ ก็คงเดาไม่ถูกจริง ๆ ค่ะสำหรับชื่อนี้ แต่ถ้ามีรูปมาให้ดูด้วย บอกเลยว่าอาจจะเดาถูกแน่นอน เพราะยีราฟตัวนี้มีดวงตาสวยหวานหยาดเยิ้มจริง ๆ พี่ ๆ พนักงานที่ดูแลก็เลยตั้งชื่อว่า ตาหวาน ให้เสียเลย
ทีนี้ที่เขาดินจะมียีราฟ 2 ตัว เอ้า...ถ้ามองที่ดวงตาไม่ออก จะรู้ได้อย่างไรว่าตัวไหนตาหวาน ก็ให้ลองสังเกตเพิ่มเติมดังนี้ค่ะ ตาหวานจะมีสีอ่อนกว่า และตัวเล็กกว่าอีกตัว ดูไม่ยากเลย ตอนนี้น้องตาหวานอายุ 16 ปีแล้ว เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2545 พี่พนักงานที่ดูแลตาหวานเล่าให้ฟังว่าตาหวานจะนิสัยน่ารักมาก พูดจารู้เรื่อง ไม่ดื้อ ไม่ซน บอกให้หลบหรือหลีก ก็ทำตามอย่างว่าง่าย กินอาหารอย่างสุภาพ และชอบกินใบมะขามและใบมะเดื่อ ถ้าแขวนไว้ให้แป๊บเดียวก็กินหมด นอกจากนี้ก็ยังชอบกินกล้วยและแครอตด้วย แหม...ดูแต่ละอย่างที่น้องตาหวานกินสิ อาหารสุขภาพทั้งนั้นเลย
อ้อ ถ้าใครอยากลองให้อาหารตาหวานและเพื่อนซี้อย่างใกล้ชิด ที่เขาดินก็มีการจัดกิจกรรมให้อาหารยีราฟในทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 2 รอบ คือ เวลา 11.30 และ 14.30 น.
4. ซันไรส์ : ม้าลาย
พอพูดถึงเรื่องชื่อ ให้เดาอย่างไรก็ไม่มีวันถูก ให้ตายเถอะ...ม้าลายอะไรทำไมชื่อซันไรส์ ไม่เห็นมีอะไรที่บ่งบอกได้เลยว่าเป็นม้าลาย แต่ก็นั่นล่ะคุณผู้ชม อะไรก็เป็นไปได้ แล้วม้าลาย 3 ตัวนี้ ตัวไหนกันนะที่ชื่อซันไรส์ ให้ดูตัวที่เล็กที่สุดค่ะ ตัวนี้เป็นลูก อีก 2 ตัว คือพ่อกับแม่ ที่ชื่อซันไรส์ ก็เพราะว่าน้องเกิดตอนเช้าที่พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นค่ะ พี่พนักงานที่ดูแลก็เลยให้ชื่อว่า "ซันไรส์"
ใครมาเยี่ยมเยือนน้องซันไรส์แล้วเห็นน้องเดินตัวติดแม่ตลอด นั่นก็เป็นเพราะว่าน้องยังไม่หย่านมค่ะ น้องซันไรส์เพิ่งเกิดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2560 อายุก็ประมาณ 8 เดือน ซึ่งตามธรรมชาติแล้วลูกม้าลายจะหย่านมแม่เมื่ออายุประมาณ 7-11 เดือนค่ะ ให้เวลาน้องอีกนิด เดี๋ยวน้องก็โตเป็นสาวแล้ว ^^
5. ฮันนี่ : เสือโคร่ง
ตามประวัติของฮันนี่บอกไว้ว่าเธอเป็นเสือโคร่งสาวน้อยที่มาจากสวนสัตว์ลพบุรี เกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2546 ปัจจุบันก็อายุ 15 ปีพอดี ทำบัตรประชาชนได้แล้วนะเนี่ย ^^ สีสันและลวดลายบนตัวก็สวยงาม เวลาน้องเดินไปมา ก็ชมกันเพลินเลยค่ะ ตอนนี้น้องฮันนี่อยู่ในส่วนจัดแสดงเดียวกับน้องหมุ่ยมุ้ย เสือโคร่งหนุ่มน้อยอีกตัวที่อายุก็ไล่เลี่ยกัน หมุ่ยมุ้ยเกิดเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2547 อีกไม่กี่วันก็อายุครบ 14 แล้ว ใครอยากเห็นความหวานซ่อนเปรี้ยวของฮันนี่ก็มาเยี่ยมชมกันได้ที่ส่วนจัดแสดงเสือเลยค่ะ
6. โตโน่ : สิงโตขาว
บางคนอาจจะสงสัยว่าสิงโตทั่วไปมันสีน้ำตาลอ่อนนี่นา แล้วทำไมโตโน่ถึงมีสีขาว นั่นก็เป็นเพราะว่าเขามีภาวะพร่องเม็ดสี (Leucism) ก็เลยทำให้สีซีดลง ขนสีน้ำตาลจะอ่อนจนเกือบขาวเลยค่ะ แต่บริเวณในตาและหนังก็ยังมีเม็ดสีปกตินะคะ
โตโน่ เป็นสิงโตขาวเพศผู้ เกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2557 อายุแค่ 4 ปีเองค่ะ ย้ายมาจากสวนสัตว์อุบลราชธานี มาอยู่ที่เขาดินพร้อม ๆ กับ "กอบัว" สิงโตขาวเพศเมียอีกตัว ที่อยู่ในส่วนจัดแสดงเดียวกัน โตโน่จะมีสีเข้มกว่ากอบัว แล้วก็มีรอยย่นที่หน้าผาก สังเกตไม่ยาก
7. แตงกวา : คาปิบารา
แตงกวา เกิดเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2557 ย้ายมาจากสวนสัตว์ขอนแก่น เป็นเพศผู้ มีฟันแทะใหญ่ ๆ รูปร่างก็จะคล้ายกับหนูตะเภา แต่เป็นหนูตะเภาที่ตัวใหญ่มาก จุดสังเกตว่าตัวไหนคือแตงกวา ให้ดูที่ขนค่ะ ขนของแตงกวาจะสีออกขาวกว่าส้มโอ มีแผลเป็นที่ขมับขวาเล็กน้อย พี่พนักงานที่ดูแลแตงกวาบอกว่านอกจากชอบกินแตงกวาแล้ว ก็ยังชอบกินข้าวโพดด้วย ถ้าวันไหนในถาดอาหารมีข้าวโพดจัดเสิร์ฟมาจะรีบวิ่งแย่งไปกินข้าวโพดก่อนเลย ก็มันหวานอร่อยนี่เนอะ ก็ต้องอยากกินเยอะ ๆ เป็นธรรมดา แล้วแตงกวาจะชอบนอนในที่ชื้น ๆ ยิ่งวันไหนถ้าอากาศร้อน ก็ยิ่งลงเล่นน้ำในบ่อบ่อยมาก ถ้าได้ยินเสียงอะไรดัง ๆ ก็จะวิ่งลงไปหลบในน้ำก่อนเลย นึกภาพหนูยักษ์ตัวอ้วน ๆ ขาสั้น ๆ วิ่งดุ๊ก ๆ ลงน้ำนะคะ น่าเอ็นดูขนาดไหน ถามใจเธอดู :)
8. ยักษ์ : จระเข้
พี่ยักษ์เป็นจระเข้น้ำเค็ม นิสัยน่ารัก เชื่อฟังพี่ ๆ พนักงานที่ดูแล เวลาที่จะต้องทำความสะอาดบ่อ ก็จะต้องไล่ต้อนให้ขึ้นไปอยู่บนบก พี่ยักษ์ก็เชื่อฟังค่ะ บางครั้งนี่ถึงขนาดว่าขึ้นไปนอนรอเองเลย ไม่ต้องไล่ต้อนกันเลย พอขึ้นไปบนบกได้ก็จะนอนอาบแดดนิ่ง ๆ สบาย ๆ รับแสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าของแกไป ไม่ลงมากวนใจพี่ ๆ พนักงานที่ทำความสะอาดบ่อ ใน 1 สัปดาห์ พี่ยักษ์ก็จะกินเพียงแค่ครั้งเดียว ถ้าอิ่มก็จะไม่กินต่อ อิ่มแล้วอิ่มเลย แล้วก็อิ่มยาวไปจนถึงอีกอาทิตย์นู่น ว่าแล้วทำไมพี่แกถึงได้หุ่นดี ดูหล่อสมาร์ตขนาดนี้ :)
อ้อ...อยากฝากไว้สักนิดค่ะ ว่าถ้าไปเที่ยวเยี่ยมชมพี่ยักษ์ อย่าโยนเหรียญเข้าไปที่บ้านของพี่ยักษ์นะคะ เพราะถ้าพี่ยักษ์กินเหรียญเข้าไป พี่ยักษ์อาจจะตายได้เลย เพราะกระเพาะอาหารไม่สามารถย่อยเหรียญได้ ทำให้ท้องอืด ถ้ารักพี่ยักษ์ก็อย่าทำร้ายเขานะ
9. คุณสมศรี : ลิงแสมทรงเลี้ยง
แต่ด้วยความที่มือของลิงอักเสบมานานทำให้คลายออกไม่ได้ และนั่นก็อาจทำให้ลิงแสมตัวนี้เข้าฝูงไม่ได้เหมือนเดิม พระองค์จึงทรงรับเลี้ยงไว้ในสวนจิตรลดา และเรียกว่า คุณกะลา ต่อมาพระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สวนสัตว์ดุสิตจัดส่งลิงแสมมาอยู่เป็นเพื่อนคุณกะลา ซึ่งขณะนั้นก็มีลูกลิงแสมเพศผู้และเพศเมียอยู่คู่หนึ่งที่ชาวบ้านนำมามอบให้ทางสวนสัตว์ดุสิต ทางสวนสัตว์จึงได้ส่งลิงแสมคู่นี้ไปอยู่เป็นเพื่อนคุณกะลา และพระองค์ทรงเรียกลิงแสมเพศผู้ว่า "สมศักดิ์" ส่วนเพศเมียทรงเรียกว่า "สมศรี" ทั้งคู่จึงได้เป็นลิงแสมทรงเลี้ยงในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
และหลังจากคุณกะลาได้เสียชีวิต คุณสมศักดิ์และคุณสมศรีก็ได้กลับมาอยู่ในความดูแลของสวนสัตว์ดุสิต นักท่องเที่ยวสามารถไปเยี่ยมคุณสมศรีและคุณสมศักดิ์กันได้ในส่วนจัดแสดงลิง ค่าง ค่ะ
10. บุ้งกี๋ : นกเงือก
พี่ที่ดูแลบุ้งกี๋เล่าให้ฟังว่าบุ้งกี๋เป็นนกเงือกที่มาจากป่าทางฝั่งประเทศเมียนมา มีคนไปเจอแล้วเอามาให้กับเถ้าแก่คนไทย ต่อมาเถ้าแก่ท่านนี้ก็ได้พาบุ้งกี๋มามอบให้กับสวนสัตว์ดุสิต บุ้งกี๋เป็นนกเงือกกรามช้าง (Wreathed Hornbill) เพศเมีย หัวและคอจะมีสีดำ ถุงใต้คอจะเป็นสีฟ้าและมีขีดดำ เห็นแบบนี้เป็นนกที่ปากสะอาดมากนะคะ เพราะโดยปกติตามธรรมชาตินกเงือกจะใช้กิ่งไม้ในการทำความสะอาดปาก แต่พอเข้ามาในความดูแลของสวนสัตว์ดุสิต พี่ ๆ ที่ดูแลบุ้งกี๋อยู่ก็ต้องช่วยบุ้งกี๋ทำความสะอาดบ้างค่ะ โดยใช้แปรงสีฟันค่อย ๆ ขัดถู เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
ถ้าอยากชมนกเงือกกรามช้างสวย ๆ อย่างใกล้ชิด ก็แวะไปหาบุ้งกี๋กันได้ที่ส่วนจัดแสดงไก่ฟ้า-นกยูง สวนสัตว์ดุสิตค่ะ
ที่มา: Kapook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น